วิธีเพิ่มพื้นที่ว่างในไดร์ฟซี (How to free-up space in c drive)

เพื่อนเป็นกันไหม เวลาใช้งาน Windows ไปซักพัก ไดร์ฟซี เรากลับมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาเฉยเลยทั้งๆที่ยังโปรแกรมอะไรก็ไม่ได้ลงเยอะ ในบทความนี้ก็จะมีวิธีที่ช่วยจัดการข้อมูลในไดร์ฟซี เผื่อเพิ่มพื้นที่ว่างให้ไดร์ฟซี โดยมีขั้นตอนให้ทำทั้งหมด 9 ขั้นตอนตามนี้เลยครับ

• กด Win + S
• ค้นหาคำว่า Storage Settings
• คลิกเข้าไปที่ Temporary files
• คลิก Remove Files (โดยที่ยังไม่ได้ เลือก Downloads เผื่อมีบางไฟล์ที่เรายังต้องการอยู่)

Win+s then type storage settings

Click at the temporary files

Click at Remove files

• กด Win+R เพื่อเปิด Run
• พิมพ์ temp โดยใช้คำสั่ง %temp%
• จากนั้นลบข้อมูลภายในทั้งหมด สังเกตว่าจะลดข้อมูลลงไปได้ประมาณ 1.2 GB

Win+r then type %temp%

Delete all %temp% files

• กด Win+R เพื่อเปิด Run
• พิมพ์ temp โดยใช้คำสั่ง temp
• จากนั้นลบข้อมูลภายในทั้งหมด สังเกตว่าจะลดข้อมูลลงไปได้ประมาณ 0.04 GB

Win+R then type temp

Delete all temp file

ในที่นี้ผมไม่ได้ใช้งาน Python เท่าไหร่ เลยทำการลบออกไปก่อนดีกว่า ซึ่งจะสังเกตว่ากินเนื้อที่ข้อมูลถึง 9 GB เลยทีเดียว

โดยก่อนที่จะเข้าไปใน AppData ได้เราต้องเปิดการมองเห็นของไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ก่อนตามรูปที่ 1 โดย

คลิกที่ View->Show->Hidden Items จากนั้นทำการ seach โดยใช้คำสั่งทั้งสามนี้

• SIZE:GIGANTIC (ขนาดไฟล์ที่มีขนาดมากกว่า 4GB++)
• SIZE:HUGE (ขนาดไฟล์ที่มีขนาดมากกว่า 1GB แต่น้อยกว่า 4GB)
• SIZE:LARGE (ขนาดไฟล์ที่มีขนาดมากกว่า 128MB แต่น้อยกว่า 1GB)

จากนั้นทำการคัดเลือกไฟล์ที่เราพอจะทราบที่มาที่ไปว่ามาจากไหน เป็นแอพอะไร ซึ่งถ้าเป็นไฟล์ cache ที่ไม่ได้สำคัญอะไรก็สามารถลบได้เลย

ในกรณีเครื่องของผม ไฟล์ที่มีขนาดมากกว่า 4GB นั้น ไม่มี แต่ไฟล์ที่อยู่ระหว่าง 1 GB และ 4GB มี 1 ไฟล์ ซึ่งพอลองเอาข้อมูลไปเซิจก็พบว่าเป็นไฟล์จาก Google Drive เป็น Stream File เฉยๆ ซึ่งผมลองลบดูก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ประหยัดเนื้อที่ไปได้มากถึง 1.5 GB เลยทีเดียว

สุดท้าย ไฟล์ที่อยู่ระหว่าง 128 MB และ 1 GB ค่อนข้างเยอะ ก็ต้องมาคัดและลบออกไป ในขั้นตอนนี้ก็สามารถประหยัดพื้นที่ไปได้อีกถึง 2.8 GB

Setting folder to show the hide data

search for SIZE:GIGANTIC and delete only known folder

search for SIZE:HUGE and delete only known folder

search for SIZE:LARGE and delete only known folder

ทำการเปลี่ยน Folder location path ไปอยู่ Drive D แทน ในรูปภาพจะโชว์การย้ายเพียง Downloads Folder เท่านั้น

• คลิกขวาที่ Downloads Folder
• เลือก Properties
• จากนั้นไปที่แท๊บ Location เพื่อเปลี่ยน Folder Location

ทำแบบนี้กับทุกๆ Folder ไม่ว่าจะเป็น Documents, Photos, Videos, Music etc.

Move Download Folder to D Drive

Do the same for all folder

Move all folder to d drive

สำหรับใครที่ใช้ Chrome แนะนำให้ไป clear cache ที่ไม่ได้ใช้งานออกใน “Settings” -> “Privacy and Security” -> “Cookies and other site data” -> “See all cookies and site data” และหาไฟล์ที่ไม่ได้ใช้ออก

หรือถ้าหากเพื่อนๆจำพาสเวิร์สของแต่ละเว็บไซต์ที่สมัครไว้ได้ ผมก็แนะนำให้กดล้างแคชไปหมดเลยแล้วค่อยมานั่ง Login แต่ละเว็บไซต์ อีกรอบจะได้ไม่เสียเวลามานั่งลบที่ละเว็บไซต์ ซึ่งในกรณีนี้ผมสามารถประหยัดพื้นที่ไปได้ถึง 2.78 GB เลยทีเดียว

ข้อควรสังเกตคือ ถ้าเรามี User Profile สำหรับ Chrome ยิ่งเยอะ ยิ่งถูกใช้พื้นที่มาก ซึ่งผมก็ทยอยลบ User ออกไปให้เหลือเพียง User หลักที่เราใช้งานเป็นประจำก็พอ จะได้ประหยัดพื้นที่ได้นั้นเอง โดยข้อมูล User Profile จะถูกเก็บไว้ใน

%LocalAppData%\Google\Chrome\User Data\{User Profile}\Service Worker\CacheStorage

โดยเปลี่ยน {User Profile} เป็น profile id ของเราในกรณีของผมเป็น Profile 9

Before Clear Cache storage that store in service worker

Remove All Cache (Warning know what you’re doing)

After Clear Cache storage that store in service worker

After Clear all unuse cookie

สำหรับใครที่ใช้ line เป็นประจำอาจจะไม่ได้สังเกต ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น จากรูปภาพที่ 1 ก็จะสังเกตเห็นถึง Cache ที่มีขนาดมากถึง 3.43 GB เลยทีเดียว แต่ไม่แนะนำให้ลบโดยตรง ให้ไปลบใน Line App เอาจะดีกว่า ซึ่งเราสามารถเคลียร์ได้เลย ไม่กระทบต่อข้อความ รูปภาพ หรือวีดีโอ ตามรูปภาพที่ 2-3

Before clear line cache

Go to Settings in line application

Go to Chat Tab and then click delete Cached data

After clear line cache

ก็ไม่น่าเชื่อว่า ตัว Google Drive นี้จะมีแคชเยอะ ซึ่งจากที่ผมได้ลองศึกษาคร่าวๆ คาดว่าจะมาจากตอนที่เราอัพโหลดไฟล์ข้างไว้อยู่ ตัว Google Drive อาจจะสร้างไฟล์นี้ขึ้นมา ก็สามารถไปเคลียแคชได้ตามนี้

สามารถเข้าไปดู แคชของ Google drive ตาม path นี้
%LOCALAPPDATA%\Google\DriveFS

อย่างไรก็ดี วิธีการลบที่ถูกต้องคือให้เรา Signout และ Sign in ใหม่เพื่อเคลียร์ Google Drive File Stream ออก แต่ก็มีข้อควรระวัง ถ้าหากเรากำลังอัพโหลดหรือดาวน์โหลดอะไรอยู่ไฟล์อาจจะมีปัญหาได้

จากนั้นเพื่อที่จะไม่ให้ cache มากองอยู่ที่ drive c ผมจึงย้ายให้ไปอยู่ drive d สะ

Before clear google drive cache

Open Google Drive Application

Click Settings and Disconnect the account

After sign out google drive and sign in again

Move Google Drive File Stream to D Drive

Reference : https://knowledge.workspace.google.com/

สำหรับใครที่ไม่ได้ใช้งาน Hibernation ก็สามารถลบได้ตามรูปภาพข้างล่างเลย ไม่ส่งผลต่อการ Sleep ซึ่งส่วนตัวผมไม่ได้ใช้งานเลยลบออกดีกว่า ประหยัดไปได้ถึง 12.7 GB เลยทีเดียว

• คลิกขวาที่ Windows Button และเลือก Terminal (Admin)
• พิมพ์คำสั่ง powercfg -h off

ในกรณีที่ต้องการให้ Hibernation ใช้งาน เพียงแค่

• คลิกขวาที่ Windows Button และเลือก Terminal (Admin)
• พิมพ์คำสั่ง powercfg -h on

Detect large Hibernation file system

Right click at the start up menu and choose terminal (admin)

Type powercfg -h off to delete hybernation file system

Reference : https://winaero.com/

สำหรับโปรแกรมเมอร์บางคนที่มีการใช้ xampp ถ้ากังวลเรื่องขนาดของ drive c ก็แนะนำให้ย้ายไฟล์ไปยัง drive d

โดยทำการย้าย ทั้ง htdocs และ mysql ไปทั้งไฟล์ และลบข้อมูลภายใน htdocs และ mysql เท่านั้น เราจะไม่ลบโฟลเดอร์ทิ้งทั้งหมด เพราะอาจจะทำให้ตัวโปรแกรมไม่สามารถรันได้

ในกรณีของผมก็สามารถประหยัดไปได้ถึง 4.08 GB

Before moving htdoc and mysql

Edit file Apache (httpd.conf)

Edit file my.ini

Change document Root in httpd

Change document Root to D Drive

Change datadir path in my.ini

Change datadir path in my.ini to D Drive

After move all htdocs and mysql to D Drive

Reference : https://bobcares.com/

จากขั้นตอนทั้งหมดจะสังเกตได้ว่าพื้นที่เราได้ลดลงไปถึง 50 GB หรือประมาณ 33% ของขนดาไดร์ฟในตอนแรกเลยทีเดียว ก็ถ้าหากเพื่อนๆมีวิธีการอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถคอมเม้นไว้ใต้โพสนี้ได้เลยนะครับ